บทความ > รู้ก่อนเลือก! ค่าแสง ค่ากันร้อน ค่ากัน UV คืออะไรในฟิล์มกรองแสง?

รู้ก่อนเลือก! ค่าแสง ค่ากันร้อน ค่ากัน UV คืออะไรในฟิล์มกรองแสง?

การเลือกฟิล์มกรองแสงให้คุ้มค่า ไม่ได้ดูแค่ความเข้มหรือราคา แต่ควรเข้าใจ “ค่าทางเทคนิค” เช่น ค่าแสง ค่ากันร้อน และค่ากัน UV เพราะแต่ละค่ามีผลต่อความเย็นภายในและการประหยัดพลังงาน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแต่ละค่าอย่างง่ายๆ เพื่อเลือกฟิล์มได้ตรงกับการใช้งานจริง


1. ค่าแสงส่องผ่าน (VLT – Visible Light Transmission)

ค่า VLT คือค่าที่บ่งบอกว่าแสงจากภายนอกสามารถส่องผ่านเข้ามาได้มากน้อยเพียงใด

  • ค่าสูง หมายถึงห้องจะได้รับแสงธรรมชาติมาก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสว่าง เช่น ห้องทำงาน ร้านอาหาร หรือโชว์รูม
  • ค่าต่ำ จะช่วยลดแสงจ้าและให้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับห้องนอน ห้องดูหนัง หรือรถยนต์

คำแนะนำ: อย่าตัดสินจากความเข้มของฟิล์มเพียงอย่างเดียว ควรดูค่า VLT ควบคู่ด้วย เพื่อให้ได้แสงภายในที่พอดี


2. ค่ากันร้อนจากรังสีอินฟราเรด (IRR – Infrared Rejection)

รังสีอินฟราเรด (IR) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิภายในสูงขึ้น ค่า IRR คือค่าที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการสะท้อนหรือดูดซับรังสีนี้

  • ยิ่งค่าสูง ยิ่งกันร้อนได้ดีจริง ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
  • ค่า IRR ตั้งแต่ 90% ขึ้นไปถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก

คำแนะนำ: หากเป้าหมายหลักของคุณคือ “ความเย็น” อย่าลืมพิจารณาค่านี้เป็นอันดับต้นๆ


3. ค่าการป้องกันรังสี UV (UV Rejection)

รังสี UV ไม่เพียงแต่ทำร้ายผิวหนัง แต่ยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน และพื้นไม้ซีดจางเร็วขึ้น

  • ฟิล์มที่ดีควรมีค่า UV Rejection ไม่น้อยกว่า 99%
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ และยืดอายุวัสดุภายในอาคาร

 คำแนะนำ: ยิ่งค่า UV สูง ยิ่งปลอดภัยต่อทั้งคนและของในระยะยาว


4. ค่าการสะท้อนแสง (VLR – Visible Light Reflectance)

คือค่าที่บอกว่าแสงจะสะท้อนออกจากกระจกมากแค่ไหน

  • ฟิล์มที่มีค่า VLR สูงอาจทำให้แสงสะท้อนเข้าตาผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอาคารที่ใกล้กัน
  • ฟิล์มที่สะท้อนน้อย จะดูนุ่มนวลและไม่รบกวนสายตา

คำแนะนำ: หากอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรหรือคอนโด ควรเลือกฟิล์มที่สะท้อนแสงต่ำ แต่ยังคงประสิทธิภาพการกันร้อนได้ดี


5. ค่า TSER (Total Solar Energy Rejected)

ค่า TSER คือค่ารวมที่แสดงถึงความสามารถของฟิล์มในการป้องกันพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด

  • รวมทั้งรังสี UV, อินฟราเรด และแสงที่มองเห็น
  • ค่านี้สะท้อนถึง “ประสิทธิภาพรวม” ของฟิล์มในการกันร้อน
  • ค่า TSER มากกว่า 50–60% ถือว่ามีประสิทธิภาพดีในระดับมาตรฐาน

คำแนะนำ: หากไม่แน่ใจจะดูค่าตัวไหน ให้ดู TSER เป็นตัวหลัก เพราะครอบคลุมทุกองค์ประกอบ



การเลือกฟิล์มกรองแสงให้คุ้มค่า ควรเข้าใจค่าทางเทคนิคอย่าง VLT, IRR, UV Rejection, VLR และ TSER เพราะแต่ละค่ามีผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานจริง หากเลือกได้ตรงความต้องการ ก็จะช่วยเพิ่มความสบาย ประหยัดพลังงาน และคุ้มค่าในระยะยาว